ศัพท์และวลีที่น่าสนใจ
Don't mention it, it doesn't matter, it's a pleasure, never mind, not at all, that's all right, you are welcome.
ฝรั่ง มักจะพูดอยู่เนืองๆ ว่าคนไทยมักจะพูดว่าไม่เป็นไรจนติดปาก แม้ในเรื่องสลักสำคัญหรือที่เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว ไทยก็ยังว่าไม่เป็นไรอยู่อีก ข้อวิจารณ์เช่นนี้ชวนให้คิดว่าเราเป็นคนไม่จริงจังกับอะไร อย่างที่ฝรั่งเรียกว่าเป็นคน easygoing แต่ความจริงมีอยู่ว่าที่ไทยพูดว่าไม่เป็นไรนนั้นเป็นด้วยความสุภาพ ไม่อยากจะให้เป็นเรื่องเป็นราววุ่นวายมากเกินไป ความจริงบางทีไทยก็เห็นว่า เป็นไร เอามากๆ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่อยากให้คนอื่นเดือนร้อนใจหรือเป็นห่วงมากเกินไปจึงสู้อุตสาห์ปากแข็งว่า ไม่เป็นไร ที่จริงนั้นฝรั่งก็ชอบพูดไม่เป็นไรมากเท่าๆ กับไทยเหมือนกัน ผิดกันแต่ว่าเขาใช้ถ้อยคำต่างๆ กันออกไปหลายอย่าง ไม่ได้ใช้ไม่เป็นไรคำเดียวแบบครอบจักรวาลอย่างของเรา ในภาษาอังกฤษมีถ้อยคำที่มีความหมายเทียบกับไม่เป็นไรของเรามากมายดังต่อไป นี้
It doesn't matter.
You are welcome.
Don't mention it.
That's all right.
It's a pleasure.
Not at all และ Never mind.
ถ้อย คำเหล่านี้ใช้ในกรณีต่างๆ กันทั้งนั้น จึงเป็นความจำเป็นสำหรับชาวต่างประเทศที่จะต้องเรียนรู้และจดจำว่าในกรณีไหน จะใช้ถ้อยคำอย่างไร จะพูดถึง It doesn't matter. ก่อน ประโยคนี้ใช้ในกรณี เช่น เราสั่งซื้อของยี่ห้อหนึ่งจากร้าน แต่บังเอิญยี่ห้อนั้นขาด คนขายเอายี่ห้ออื่นมาให้ซึ่งมีคุณภาพดีเท่ากัน พร้อมทั้งขอโทษเรา ถ้าเรายินดีจะรับของไว้ก็อาจพูดว่า It doesn't matter. หรือ That's all right. หรือเพื่อนบอกว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์มารับไปดูที่ทางที่จะซื้อ แต่แล้วก็ไม่ได้โทรศัพท์มาเพราะติดธุระ วันต่อมาจึงมาขอโทษที่บ้าน เราก็อาจพูดว่า It doesn't matter. หรือ That's all right. ได้ กรณีที่จะใช้ถ้อยคำเช่นนี้มีอยู่อีกมากมาย แต่ขอให้ถือหลักว่าความหมายของคำนี้คือ เรื่องนั้นไม่สลักสำคัญอะไร คือคำกริยา to matter แปลว่ามีความสำคัญ ถ้าเข้าใจความหมายของคำนี้แล้ว ก็ใช้ได้ถูกต้อง
ประโยคที่ว่า That's all right. ก็ใช้ในกรณีคล้ายคลึงกัน เช่น ใครมาทำอะไรที่อาจทำให้บาดเจ็บเสียหายแล้วมาขอโทษเรา ถ้าเป็นเรื่องไม่ใหญ่โตพอที่จะให้อภัยกันได้ หรือเราใจนักเลงพอที่จะให้อภัยแม้จะเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ก็อาจพูดว่า That's all right. เป็นอันว่าแล้วกันไป
ส่วนประโยค You are welcome. เป็นอันว่าแล้วกันไป ใจเราที่เอื้อเฟื้อช่วยเหลือเขา ในกรณีเช่นนี้ ภาษาไทยก็จะใช้ว่าไม่เป็นไรมิได้ ความจริงความหมายของ You are welcome. คือไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรหรอก สำหรับท่านแล้วยินดีเสมอ หรืออนุญาตให้ใช้ได้เสมอ ประโยค You are welcome. นี้ย่อมาจาก You are welcome to it. การใช้ welcome ในที่นี้เป็นสำนวนที่แปลกมาสำหรับคนไทย เราเคยแต่ใช้คำนี้ในความหมายต้อนรับขับสู้ เช่น Welcome to Thailand. ประเทศไทยยินดีต้อนรับท่าน แต่ภาษาอังกฤษมีวิธีใช้คำนี้อย่างพิสดารหลายอย่าง เป็นต้นว่า You are welcome to whatever I have. ฉันมีอะไรก็ยินดีให้ท่าน (เอาไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรทั้งนั้น)
อีกประโยคหนึ่งคือ Don't mention it. นี้ใช้ได้เสมอเมื่อมีคนมาขอบใจเรา ความหมายก็คือไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรหรอก (คือไม่ถือว่าเป็นบุญคุณอะไร) คำนี้จะใช้แทน You are welcome. ในกรณีทั่วไปก็ได้
ยังมีวิธีพูดตอบรับคำขอบใจอีกอย่างหนึ่งคือ It’s a pleasure. หมายความว่าที่ทำไปนั้นด้วยความยินดี ไม่ใช่ฝืนใจทำ
อีกประโยคหนึ่งที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ Never mind! คำนี้ก็ความหมายว่าอย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย หรืออย่าเป็นทุกข์เป็นร้อนไปเลย ไม่เป็นไรหรอก คำว่า mind นั้นแปลว่าเอาเป็นอารมณ์หรือถือเป็นเรื่องใหญ่โต Never mind นี้เป็นคำปลอบหรือให้กำลังใจ เช่น Never mind! There is still some money left. You won't starve. ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ยังมีเงินเหลืออยู่อีก แกไม่อดตายหรอก
มีสำนวนอีกอย่างหนึ่งที่ได้ยินบ่อยอยู่เหมือนกันคือ Not at all. ซึ่งแปลตามตัวว่า ไม่เลย ใช้สำหรับตอบผู้ที่แสดงความขอบใจ เช่น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งพูดว่า Thank you very much. อีกฝ่ายหนึ่งอาจตอบว่า Not at all. ความหมายก็คือไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องขอบใจข้าพเจ้า
จะเห็น ได้ว่าสำนวนที่ใช้ตอบการแสดงความขอบใจนั้นมักเป็นประโยคหรือวลีที่ย่อเสียจน เกือบไม่เข้าใจความหมาย เกือบจะกลายเป็นคำอรรถไป มิหนำซ้ำเวลาพูดคำเช่นนี้ ชาวอังกฤษก็มักพูดกลืนคำเสียเป็นส่วนใหญ่ อยู่ในลักษณะอ้อมแอ้มเต็มที ทั้งนี้ก็อาจเป็นด้วยชาวอังกฤษรู้สึกกระดากเมื่อมีคนมายกยอบุญคุณจึงพูดตอบ รับออกไปอย่างไม่เต็มปาก
จากหนังสือ ภาษาอังกฤษน่ารู้ เขียนโดย วิทย์ ศิวะศริยานนท์ หน้า 75-78 พิมพ์ครั้งที่ 5
Tuesday, June 30, 2009
That's all right
Subscribe to:
Posts (Atom)